Maythaporn Kumchan

Biên tập viên

Block "nguyen-tac-xuat-ban-noi-dung" not found

BÀI VIẾT CỦA TÁC GIẢ

ความวิตกกังวลและความเครียดยังทำให้เกิดอาการท้องเสีย

ความวิตกกังวลและความเครียดยังทำให้เกิดอาการท้องเสีย เป็นโรคอะไร?

เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ แต่สำหรับหลายๆ คน ทุกครั้งที่พวกเขากังวล เครียด หรือเครียด พวกเขาจะมีอาการท้องเสีย ระบบย่อยอาหารผิดปกติ หรือแม้แต่ปวดท้องและท้องอืด ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน แต่เป็นโรคที่รักษายากมากและมีอุบัติการณ์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในคนหนุ่มสาวที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมาก… 1. “ความเครียดทำให้ท้องเสีย” ปรากฏการณ์ข้างต้นเป็นลักษณะทั่วไปของกลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน (หรือที่รู้จักในชื่อสากลว่า IBS) เรามักคุ้นเคยกับชื่อโรคลำไส้กระตุก (เพราะนี่เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดและมองเห็นได้ชัดเจนของโรค IBS) อาการที่พบบ่อยของโรค ได้แก่ ปวดตะคริวหรือปวดทื่อบริเวณช่องท้อง คุณอาจรู้สึกท้องอืด ท้องอืด และท้องอืดมาก การเคลื่อนไหวของลำไส้บ่อยครั้ง: อาจหลวม, หลวม, ศีรษะถูกบดหรือแข็ง, หางบด คนไข้ที่มีอาการข้างต้นมักสับสนกับอาการลำไส้ใหญ่บวม แต่ไม่เหมือนกับอาการลำไส้ใหญ่บวม คือ เมื่อตรวจแล้วจะเห็นผลการส่องกล้อง อัลตราซาวนด์… ล้วนให้ผลลัพธ์ที่ “ปกติ” ทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใดก็ตามที่เกิดความวิตกกังวล ตึงเครียด ความเครียด หรือนอนไม่หลับ โรคนี้มักจะเกิดขึ้นอีกหรือมีแนวโน้มที่จะแย่ลง เนื่องจากมีความสัมพันธ์พิเศษระหว่างจิตวิทยากับอาการของโรค… 2. ความเครียดส่งผลต่อระบบย่อยอาหารอย่างไร? การหดตัวเพื่อขับของเสียออกถือเป็นการทำงานปกติของลำไส้ แต่เมื่อระบบย่อยอาหารมีปัญหาลำไส้หดตัวน้อยลงทำให้อาหารถูกเก็บไว้ในลำไส้เป็นเวลานานและน้ำถูกดูดซึมทั้งหมดทำให้อุจจาระแห้งเกินไปทำให้เกิดอาการท้องผูก ในทางกลับกัน...

เข้าห้องน้ำแล้วอยากไปอีกจะเป็นโรคอะไร?

เข้าห้องน้ำแล้วอยากไปอีกจะเป็นโรคอะไร?

1. เข้าห้องน้ำแล้วอยากไปอีกจะเป็นโรคอะไร? อาการลำไส้แปรปรวน (IBS) เป็นหนึ่งในสาเหตุทั่วไปของการกระตุ้นให้ถ่ายอุจจาระอย่างต่อเนื่อง โรคนี้รบกวนการทำงานของลำไส้ ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปวดท้อง ท้องอืด และพฤติกรรมการขับถ่ายเปลี่ยนแปลง ลักษณะของ IBS คือความรู้สึกตึงแม้ในขณะที่ลำไส้ว่างเปล่า สาเหตุ: ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของ IBS แต่ปัจจัยต่างๆ เช่น ความเครียด การรับประทานอาหารที่ไม่ดี และภาวะ dysbiosis ในลำไส้ อาจมีบทบาทสำคัญ อาการอื่นๆ: นอกเหนือจากการกระตุ้นให้ถ่ายอุจจาระอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่เป็นโรค IBS อาจมีอาการต่อไปนี้ด้วย: ปวดท้อง ท้องอืดท้องอืด ท้องเสียหรือท้องผูก แก๊ส รู้สึกไม่สบายในช่องท้อง 2. วิธีเอาชนะความอยากที่จะกลับไปเข้าห้องน้ำอีกครั้ง การรู้สึกว่าต้องไปอีกครั้งหลังถ่ายอุจจาระอาจมีสาเหตุหลายประการ เมื่อต้องการแก้ไขปัญหานี้ คุณสามารถลองใช้มาตรการต่อไปนี้: อาหารเพื่อสุขภาพ: ลองเปลี่ยนอาหารของคุณ หลีกเลี่ยงอาหารที่ระคายเคืองง่าย รสเผ็ด และมันเยิ้ม การเพิ่มการบริโภคผักใบเขียว ผลไม้ และอาหารที่มีเส้นใยสูงจะช่วยปรับปรุงสุขภาพของลำไส้ ลดความตึงเครียดและความเครียด: ความเครียดและความวิตกกังวลอาจทำให้เกิดปัญหากับระบบย่อยอาหารได้...

หลังอาหารเช้าปวดท้องออกไปข้างนอก – จะจัดการกับมันอย่างไร?

หลังอาหารเช้าปวดท้องออกไปข้างนอก – จะจัดการกับมันอย่างไร?

แน่นอนว่าหลายๆ คนกำลังประสบกับอาการถ่ายอุจจาระหลังอาหารเช้า แต่มักพิจารณาว่าเป็นความผิดปกติทางเดินอาหารที่พบบ่อย อย่างไรก็ตาม อย่าละเลยอาการ เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคระบบทางเดินอาหารที่เป็นอันตรายได้ มาเรียนรู้รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหานี้กันเถอะ 1. สาเหตุของอาการปวดท้องและถ่ายอุจจาระหลังอาหารเช้า หลายๆ คนมักมีอาการถ่ายอุจจาระหลังอาหารเช้า นี่เป็นปรากฏการณ์ทางสรีรวิทยาปกติเนื่องจากร่างกายปรับกิจกรรมย่อยอาหารหลังรับประทานอาหาร แต่หากมีอาการนี้ร่วมด้วย เช่น ถ่ายบ่อยครั้ง อุจจาระผิดปกติ ปวดท้อง คลื่นไส้ เป็นต้น อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคได้ 1.1. อาหารที่ไม่เหมาะสมหรือปนเปื้อน อาหารที่ไม่เหมาะสมหรือปนเปื้อนอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย รวมทั้งอาหารเป็นพิษด้วย อาหารเป็นพิษคือการเจ็บป่วยที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิต อาการของโรคอาหารเป็นพิษ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ปวดท้อง และมีไข้ การรับประทานอาหารที่มีสารปนเปื้อนหรืออาหารที่ไม่เหมาะสมกับร่างกาย 1.2. แพ้อาหาร การแพ้อาหารเป็นอาการไม่พึงประสงค์ของระบบภูมิคุ้มกันต่ออาหารบางชนิด เมื่อคนที่แพ้อาหารทานหรือสัมผัสอาหารที่ตัวเองแพ้ ระบบภูมิคุ้มกันจะเข้าใจผิดว่าอาหารเป็นผู้บุกรุกที่เป็นอันตรายและโจมตีอาหารนั้น สิ่งนี้สามารถนำไปสู่อาการได้หลากหลายทั้งไม่รุนแรงและรุนแรง อาการภูมิแพ้อาหารอาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีถึงชั่วโมงหลังรับประทานอาหารหรือสัมผัสอาหารที่เป็นภูมิแพ้ อาการทั่วไป ได้แก่: ผื่นคันหรือลมพิษ คัน อาการบวม โดยเฉพาะที่ใบหน้า ปาก ลำคอ...

ลำไส้อุดตันคืออะไร? ค้นหาสาเหตุและวิธีรับมืออย่างปลอดภัย

ลำไส้อุดตันคืออะไร? ค้นหาสาเหตุและวิธีการรักษา

ลำไส้อุดตันเป็นโรคอันตรายที่เกิดกับผู้สูงอายุเป็นหลัก หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ผู้ป่วยที่มีลำไส้อุดตันอาจเกิดการทะลุของลำไส้ ลำไส้เนื้อตาย เยื่อบุช่องท้องอักเสบ หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตได้ 1. ลำไส้อุดตันคืออะไร? การอุดตันของลำไส้เป็นคำศัพท์ทางการแพทย์ที่อธิบายถึงการอุดตันของลำไส้บางส่วนหรือทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศ ของเหลว และของแข็งเคลื่อนเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ (ลำไส้ใหญ่) ลำไส้อุดตันเป็นโรคที่พบบ่อยและอันตรายซึ่งเกิดขึ้นได้กับหลายช่วงวัย ตั้งแต่ทารกแรกเกิด (เรียกว่าทารกแรกเกิดลำไส้อุดตัน) ไปจนถึงผู้สูงอายุ แต่ที่พบบ่อยที่สุดยังคงเป็นผู้สูงอายุ หากไม่ได้รับการตรวจพบและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ลำไส้อุดตันอาจลุกลามไปสู่โรคร้ายแรงต่างๆ ได้ ส่งผลโดยตรงต่อชีวิตของผู้ป่วย 2. 5 อาการทั่วไปของลำไส้อุดตัน ผู้ป่วยที่มีลำไส้อุดตันอาจพบอาการต่อไปนี้อย่างน้อยหนึ่งอาการทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรง: อาการปวดท้อง: อาการปวดเป็นอาการที่ผู้ป่วยลำไส้อุดตันเกือบทุกคนต้องเผชิญ อาการปวดมักจะเกิดขึ้นที่ช่องท้องกะทันหัน โดยจะรุนแรงประมาณ 2-3 นาที แล้วค่อย ๆ ลดลงและกลับมาเป็นซ้ำอีกครั้ง อาการท้องอืด: ในคนที่ผอมและมีผนังหน้าท้องบาง จะเห็นห่วงลำไส้ยื่นออกมาที่ผนังหน้าท้อง โดยเฉพาะเมื่อฉายแสงไปที่ผิวหน้าท้องเราจะเห็นกระดูกสันหลังบีบตัวที่โดดเด่นและเคลื่อนที่ช้าๆ เหมือนงูคลาน อาเจียน: การอาเจียนเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก มักมาพร้อมกับอาการปวดท้อง ในตอนแรกผู้ป่วยอาเจียนอาหาร จากนั้นอาเจียนเป็นน้ำดีและน้ำย่อย อาการท้องผูกและถ่ายอุจจาระ: เมื่อมีอาการนี้ลำไส้อุดตันจะรุนแรง เพราะเมื่อเทียบกับอาการข้างต้นแล้วลำไส้อุดตันมักจะเกิดทีหลังเพราะในชั่วโมงแรกลำไส้จะต้องหดตัวเพื่อขับก๊าซและอุจจาระในลำไส้ที่ถูกบล็อกออกมา เมื่อแก๊สออกมาหมดแล้วแต่อุจจาระยังไม่ถูกอัดออกมา ผู้ป่วยจะมีอาการท้องอืดและถ่ายอุจจาระ...

อาการคลื่นไส้ที่เป็นลําไส้ใหญ่อักเสบหรือไม่?

อาการคลื่นไส้ที่เป็นลําไส้ใหญ่อักเสบหรือไม่?

อาเจียนส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาระบบย่อยอาหาร แล้วเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบทำให้เกิดอาการคลื่นไส้หรือไม่? มาหาคำตอบกับ bioprothailand ในบทความนี้เถอะ 1. ลำไส้ใหญ่อักเสบทำให้เกิดอาการคลื่นไส้หรือไม่? ขั้นแรก เพื่อทราบว่าโรคลำไส้ใหญ่อักเสบทำให้เกิดอาการคลื่นไส้หรือไม่ คุณต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่าลำไส้ใหญ่อักเสบคืออะไร โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นโรคทางเดินอาหารชนิดหนึ่งที่มีอาการซับซ้อนหลายอย่าง โดยปกติผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บปวดบริเวณช่องท้องส่วนล่างเสมือนมีหินกดทับ อุจจาระไม่เป็นก้อน ท้องอืด มีแก๊ส ท้องร้อง อาหารไม่ย่อย ถ่ายอุจจาระลำบาก อาการคลื่นไส้อาจมีทั้งไม่รุนแรงและรุนแรง ขึ้นอยู่กับอาการของลำไส้ใหญ่อักเสบ ประมาณกันว่ามีเพียงประมาณ 20-30% ของผู้ที่เป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเท่านั้นที่มีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการคลื่นไส้หลังจากรับประทานอาหาร ลอง อาหารใหม่ หรือการกระตุกของลำไส้ทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรง อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคลำไส้ใหญ่อักเสบได้ ร่วมกับอาจมีไข้ ปวดท้อง ระบบย่อยอาหารผิดปกติ ท้องอืด เหนื่อยล้า เบื่ออาหาร อุจจาระเหลว… วิธีลดอาการคลื่นไส้ที่ง่ายที่สุดคือเปลี่ยนอาหารและนิสัยการกิน ซึ่งสามารถช่วยควบคุมอาการคลื่นไส้ได้ร่วมกับใช้ยาด้วย การบำบัดทางเลือก เช่น โปรไบโอติก ก็มีประโยชน์อย่างยิ่งเช่นกัน 2. สัญญาณที่มาพร้อมกับโรคลำไส้ใหญ่อักเสบและคลื่นไส้ 2.1. ท้องอืดและไม่สบายตัว หากคุณเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ การหดตัวของลำไส้จะช้าลงและอาหารจะถูกเผาผลาญอย่างช้าๆ ทำให้เกิดการสะสมของก๊าซ ทำให้ท้องอืด...

การป้องกันและรักษาโรคท้องร่วงเฉียบพลันในผู้ใหญ่

การป้องกันและรักษาโรคท้องร่วงเฉียบพลันในผู้ใหญ่

คุณมักจะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง มีไข้ ท้องอืด หรืออุจจาระเป็นเลือดหรือไม่? คุณกำลังมองหาวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการรักษาอาการท้องเสียเฉียบพลันในผู้ใหญ่อยู่หรือไม่? ด้านล่างนี้คือ 5 วิธีรักษาอาการท้องเสียเฉียบพลันในผู้ใหญ่ที่ต้อง “คำนึงถึง” เพื่อปกป้องสุขภาพของตัวเอง 1. สาเหตุและอาการที่พบบ่อยของอาการท้องเสียเฉียบพลันในผู้ใหญ่ อาการท้องร่วงเฉียบพลันเป็นอาการของโรคต่างๆ มากมาย แต่สาเหตุของอาการท้องเสียเฉียบพลันในผู้ใหญ่มีสาเหตุหลักมาจากลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อ เส้นทางการแพร่เชื้อคือระบบทางเดินอาหาร: การติดเชื้อไวรัส: มากถึง 80% ของผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบในประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยทั่วไปคือโรตาไวรัส อะดีโนไวรัส นอร์วาร์ก… การติดเชื้อแบคทีเรีย: ส่วนใหญ่พบในประเทศกำลังพัฒนา โรคนี้มักมีอุบัติการณ์สูงในช่วงฤดูร้อน แบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค ได้แก่ Campylobacter jejuni, Salmonella, Shilgella (ทำให้เกิดโรคบิด), Yersinia, E.coli, Vibrio Cholera (ทำให้เกิดอหิวาตกโรค) การติดเชื้อปรสิต: Giardia, Cryptosporidium, Entamoeba histolitica… เนื่องจากผลข้างเคียงของยา: ยาตะวันตกหรือตะวันออกบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้เนื่องจากมีสารบางชนิดที่มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ยาปฏิชีวนะทำให้เกิดอาการท้องร่วงเนื่องจากภาวะ dysbiosis ในลำไส้ โรคนี้จะหายไปเองเมื่อคุณหยุดรับประทานยา หากคุณติดเชื้อ...

ถ่ายอุจจาระเสร็จแล้วอยากถ่ายอีก เป็นโรคอะไร?

ถ่ายอุจจาระเสร็จแล้วอยากถ่ายอีก เป็นโรคอะไร?

หลายคนคงเคยพบกับความรู้สึกถ่ายไม่สุด แต่กลับถ่ายได้เรื่อยๆ จนเกิดความกังวลใจ สิ่งนี้ส่งผลไม่เพียงแค่ต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ยังแฝงไปด้วยความเสี่ยงของการเกิดโรคทางเดินอาหาร บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจในเรื่องสาเหตุและแนวทางในการรับมืออาการ “ถ่ายไม่สุด”  1. ถ่ายเสร็จแล้วก็อยากถ่ายอีก อาการแบบนี้คือโรคอะไร?  การขับถ่ายเป็นกิจวัตรทางสรีระของมนุษย์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เพื่อเป็นการขับของเสียออกจากร่างกาย โดยแต่ละคนอาจมีความถี่ในการขับถ่ายที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามหากคุณรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำอยู่ตลอดเวลาหลังจากที่เพิ่งเข้าไป ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามและควรเข้ารับการตรวจสุขภาพจากแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะอาการดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคต่างๆ ต่อไปนี้  1.1 โรคลำไส้แปรปรวน  อาการ “ถ่ายไม่สุด” ถือเป็นเพียงหนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยของโรคลำไส้แปรปรวน นอกจากนี้ โรคดังกล่าวยังอาจมาพร้อมกับอาการอื่นๆ ได้แก่  ท้องเสีย ซึ่งเป็นอาการที่พบได้มากที่สุดในโรคลำไส้แปรปรวน โดยจะมีลักษณะอุจจาระเหลว หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงของรอบในการขับถ่าย (ถ่ายอุจจาระมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน)  ปวดท้อง ซึ่งจะมีลักษณะเป็นอาการจุก เสียด บริเวณท้องน้อยหรือชายโครงด้านซ้าย อาการดังกล่าวจะเกิดขึ้นหลังจากรับประทานอาหารหรือหลังจากถ่ายอุจจาระ  ท้องผูก โดยจะรู้สึกอึดอัด เบ่ง ถ่ายไม่ออก ท้องอืด แน่นท้อง โดยอาการมักเกิดขึ้นในช่วงบ่ายหรือช่วงกลางคืน 1.2  โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ คือ ภาวะที่ลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนสุดท้ายของระบบทางเดินอาหาร...

ทานอาหารเช้าแล้วปวดท้อง ปวดถ่ายแก้ไขอย่างไร?

ทานอาหารเช้าแล้วปวดท้อง ปวดถ่ายแก้ไขอย่างไร?

หลายๆ คนกำลังประสบกับอาการถ่ายอุจจาระหลังอาหารเช้า แต่คิดว่าเป็นโรคทางเดินอาหารที่พบบ่อย อย่างไรก็ตาม อย่าละเลยอาการเพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคระบบทางเดินอาหารที่เป็นอันตรายได้ มาเรียนรู้รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหานี้เถอะ 1. สาเหตุของอาการปวดท้องและขับถ่ายหลังอาหารเช้า หลายๆ คนมักมีอาการถ่ายหลังอาหารเช้า นี่เป็นปรากฏการณ์ทางสรีรวิทยาปกติเนื่องจากร่างกายปรับกิจกรรมย่อยอาหารหลังรับประทานอาหาร แต่หากมีอาการนี้ร่วมด้วย เช่น ถ่ายอุจจาระบ่อย อุจจาระผิดปกติ ปวดท้อง คลื่นไส้… อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคได้ 1.1. อาหารไม่เหมาะสมหรือปนเปื้อน อาหารที่ไม่เหมาะสมหรือปนเปื้อนอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย รวมทั้งอาหารเป็นพิษด้วย อาหารเป็นพิษคือโรคที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิต อาการของโรคอาหารเป็นพิษ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง และมีไข้ 1.2. แพ้อาหาร แพ้อาหารเป็นอาการไม่พึงประสงค์ของระบบภูมิคุ้มกันต่ออาหารบางชนิด เมื่อผู้ที่แพ้อาหารทานหรือสัมผัสกับอาหารที่พวกเขาแพ้ ระบบภูมิคุ้มกันจะเข้าใจผิดว่าอาหารเป็นผู้บุกรุกที่เป็นอันตรายและโจมตีอาหารนั้น สิ่งนี้สามารถนำไปสู่อาการได้หลากหลายทั้งไม่รุนแรงและรุนแรง อาการภูมิแพ้อาหารอาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีถึงชั่วโมงหลังรับประทานอาหารหรือสัมผัสอาหารที่เป็นภูมิแพ้ อาการที่พบบ่อย ได้แก่: ผื่นคันหรือลมพิษ คัน อาการบวมโดยเฉพาะที่ใบหน้า ปาก ลำคอ หรือลิ้น หายใจลำบาก หายใจมีเสียงหวีด คลื่นไส้...

ใช้ยารักษาโรคลำไส้แปรปรวนอย่างไรให้ถูกต้อง?

ใช้ยารักษาโรคลำไส้แปรปรวนอย่างไรให้ถูกต้อง?

อาการลำไส้แปรปรวนซึ่งเป็นความผิดปกติในการทำงานที่ส่งผลต่อลำไส้ใหญ่เป็นหลักยังคงเป็นปริศนาทางการแพทย์ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทในลำไส้มีบทบาทสำคัญในการเกิดโรค อาการลำไส้แปรปรวน มีอาการทางคลินิกที่หลากหลาย โดยมีอาการหลักๆ เช่น: ปวดท้อง ความผิดปกติของการเคลื่อนไหวของลำไส้ (ท้องร่วง ท้องผูก หรือทั้งสองอย่าง) ท้องอืด. นอกจากนี้ อาการลำไส้แปรปรวนยังอาจมาพร้อมกับอาการพิเศษของระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดศีรษะ หัวใจเต้นผิดจังหวะ และนอนไม่หลับ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย สูตรการรักษาปัจจุบันสำหรับอาการลำไส้แปรปรวนมุ่งเน้นไปที่การใช้ยากลุ่มเพื่อรักษาอาการเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพการรักษามีจำกัด และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์มากมาย 1. ยาแก้ปวด ยาแก้ปวด เช่น อะโทรปีน สโคโพลามีน อัลเวอรีน เมเบเวอรีน ไตรเมบูทีน แคลเซียมแชนเนลบล็อกเกอร์ และยาแก้ซึมเศร้าบางชนิด มักใช้เพื่อทำให้ท้องอืดและลดอาการปวดในผู้ที่มีอาการลำไส้แปรปรวน อย่างไรก็ตาม ยาเหล่านี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ เช่น อาการท้องผูก โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการลำไส้แปรปรวนคล้ายแอปเปิล การใช้ยาเหล่านี้ในระยะยาวอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอื่นๆ ได้ ดังนั้นควรพิจารณาอย่างรอบคอบ 2. ยาแก้ท้องผูก เมื่อท้องผูก หลายๆ คนมักจะใช้ยาระบาย ยาระบายมีสองประเภทหลัก: ประเภทที่...

คุณควรกินอะไรกับอาการลำไส้ใหญ่บวม?

คุณควรกินอะไรกับอาการลำไส้ใหญ่บวม?

การรับประทานอาหารมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการรักษาและบรรเทาอาการของอาการลำไส้ใหญ่บวม แล้วคนที่เป็นโรคลำไส้ใหญ่บวมควรกินอะไรเพื่อสุขภาพที่ดีที่สุด? หรืออ้างอิงถึงบทความต่อไปนี้ 1. อาการลำไส้ใหญ่บวมคืออะไร? อาการลำไส้ใหญ่บวมเรื้อรังเป็นโรคทางเดินอาหารที่พบบ่อย ซึ่งมักเกิดจากการอักเสบเฉียบพลันเนื่องจากการติดเชื้อในทางเดินอาหารที่ไม่ได้รับการรักษา เมื่อเวลาผ่านไป โรคจะกลายเป็นระยะเรื้อรัง ทำให้การรักษาทำได้ยาก นอกจากสาเหตุของการติดเชื้อแล้ว ปัจจัยทางจิตวิทยาเชิงลบ เช่น ความตึงเครียด ความเครียด และความวิตกกังวลก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน เมื่อจิตวิญญาณได้รับผลกระทบ ระบบประสาทอัตโนมัติจะถูกรบกวน ทำให้เกิดการหลั่งสารพิษในลำไส้เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดแผลที่เยื่อเมือก อาการทั่วไปของอาการลำไส้ใหญ่บวมเรื้อรัง: ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร: ท้องร่วง ท้องผูก หรือสลับกันทั้งสองอย่าง ท้องอืดท้องเฟ้อ ปวดท้อง: มักทึบบริเวณช่องท้องส่วนล่าง อาจเป็นตะคริวได้ อุจจาระหลวม หลวม หรือท้องผูก ความรู้สึกถ่ายอุจจาระยังไม่หมดอยากถ่ายต่อ 2. คุณควรกินอะไรกับอาการลำไส้ใหญ่บวม? อาการลำไส้ใหญ่บวมเป็นเรื้อรังและเกิดขึ้นซ้ำๆ เกิดขึ้นเนื่องจากเยื่อเมือกของลำไส้ใหญ่ได้รับความเสียหายและไวต่อความรู้สึก ดังนั้น การใช้อาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะหรือ “ไม่เหมาะสม” อาจทำให้เยื่อบุลำไส้ระคายเคือง นำไปสู่ความผิดปกติของการเคลื่อนไหวของลำไส้และอาการต่างๆ เช่น ปวดท้อง ท้องร่วง และอุจจาระเหลว โภชนาการมีบทบาทสำคัญในการรักษาอาการลำไส้ใหญ่บวม ผู้ป่วยควรทราบหลักการดังต่อไปนี้: เสริมใยอาหารที่ละลายน้ำได้: คุณควรกินอาหารที่มีใยอาหารที่ละลายน้ำได้...

0948358177