โรคของการอยากเดินหน้าต่อไปหลังจากออกไปข้างนอกคืออะไร?

โรคของการอยากเดินหน้าต่อไปหลังจากออกไปข้างนอกคืออะไร?

โรคลำไส้แปรปรวนเรื้อรัง (Chronic spastic colon) เป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยที่สุดทั่วโลก พบได้มากในผู้หญิงวัย 20-50 ปี โรคนี้มีลักษณะเฉพาะคือ ปวดท้อง และลำไส้ปั่นป่วนร่วมกับการเปลี่ยนแปลงการทำงานของลำไส้ บทความนี้โดย bioprothailand จะช่วยให้คุณเข้าใจโรคนี้มากขึ้น

1. โรคลำไส้แปรปรวนเรื้อรังคืออะไร

โรคลำไส้แปรปรวนเรื้อรัง หรือที่เรียกว่าโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) หรือภาวะลำไส้ทำงานผิดปกติ เป็นภาวะที่การบีบตัวของลำไส้ใหญ่ทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูกหรือท้องเสียสลับกันไปมา แต่ไม่พบความเสียหายใดๆ ในลำไส้ใหญ่

จุดเด่นของโรคคือ อาการกำเริบเป็นๆ หายๆ ในระยะเวลานาน ทำให้ผู้ป่วยต้องทรมานกับความทุกข์ทรมานเรื้อรัง ดังนั้นโรคลำไส้แปรปรวนจึงถูกเรียกว่า “เรื้อรัง”

IBS là gì và những điều không thể bỏ qua về bệnh

แม้ว่าโรคนี้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็สร้างความรำคาญให้กับผู้ป่วยได้มากจากอาการเรื้อรังและรักษาให้หายขาดได้ยาก นอกจากนี้ โรคลำไส้แปรปรวนเรื้อรัง อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงาน

การเรียน การใช้ชีวิต และคุณภาพการนอนหลับของผู้ป่วยได้

ที่สำคัญ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้ร่างกายอ่อนแอ น้ำหนักลดลง และเสี่ยงต่อการเป็นโรคริดสีดวงทวารได้ ดังนั้น การพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นสิ่ง

สำคัญอย่างยิ่งเพื่อจำกัดผลกระทบด้านลบของโรค

ในปัจจุบัน แพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดของโรคนี้ได้ แต่มีข้อสันนิษฐานถึงปัจจัยบางอย่างที่

อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่:

  • ความเชื่อมโยงระหว่างสมองกับลำไส้:*บทบาทของระบบประสาท รวมถึงการเปลี่ยนแปลงระดับสารสื่อประสาทและฮอร์โมน อาจส่งผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร และอัตราการเคลื่อนที่ของอาหารผ่านทางเดินอาหารNão ảnh hưởng trực tiếp đến dạ dày và ruột như thế nào?
  • แบคทีเรียในลำไส้: อาจเกิดความไม่สมดุลระหว่างแบคทีเรียที่ดีและแบคทีเรียที่ไม่ดีในลำไส้Thông tin về mất cân bằng hệ vi sinh đường ruột
  • การแพ้หรือไวต่ออาหาร: อาการอาจเกิดขึ้นได้จากอาหารหรือกลุ่มอาหารบางชนิด
  • การแพ้ยาบางชนิด: การใช้ยาบางชนิด โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ อาจเป็นสาเหตุของโรคนี้
  • ความวิตกกังวล ความเครียด ความผิดปกติทางอารมณ์ ความเครียดในการทำงานVì sao căng thẳng gây đau bụng?
  • ความผิดปกติของฮอร์โมน พบได้บ่อยในผู้หญิง
  • พฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้อง เช่น การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา การรับประทานอาหารย่อยยาก หรืออาหารที่มีไขมันสูง
  • การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ใช้สารเสพติด และสารกระตุ้นอื่นๆ11 dấu hiệu bạn bị rối loạn sử dụng chất kích thích

2. อาการของโรคลำไส้แปรปรวนเรื้อรัง

อาการของโรคลำไส้แปรปรวนค่อนข้างหลากหลาย มีตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง โรคนี้มีลักษณะเรื้อรัง กำเริบเป็นๆ หายๆ สัญญาณทั่วไปของโรคลำไส้แปรปรวนคือ ปวดท้อง ท้องเสีย หรือท้องผูก

อาการที่พบบ่อย:

  • ท้องเสียหรือท้องผูกสลับกัน
  • ท้องอืด ไม่สบายท้อง
  • ปวดท้องบริเวณกลางท้อง
  • รู้สึกถ่ายไม่สุด
  • ผายลมบ่อย
  • เบื่ออาหาร
  • อุจจาระอ่อน เหลว หรือมีมูกปน

ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง อย่างไรก็ตาม บางคนอาจมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น:

  • อ่อนเพลีย น้ำหนักลด
  • หิตจางจากการขาดธาตุเหล็กและวิตามิน
  • วิตกกังวล เครียด
  • มีเลือดออกทางทวารหนัก
  • ท้องเสียตอนกลางคืน
  • กลืนลำบาก
  • น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว
  • อาเจียนบ่อย
  • ถ่ายอุจจาระผิดปกติ
  • ปวดเกร็งในช่องท้องอย่างต่อเนื่อง

หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในผู้ป่วยได้

3. วิธีการวินิจฉัยโรคลำไส้แปรปรวนเรื้อรัง

การวินิจฉัยโรคโรคลำไส้แปรปรวนเรื้อรังจะใช้วิธีการตัดโรคอื่นๆ ออกไป ดังนั้น การตรวจร่างกายและประเมินอย่างละเอียดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อแยกแยะโรคร้ายแรงอื่นๆ ก่อนที่จะยืนยันการวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง

กระบวนการวินิจฉัยมักประกอบด้วย:

การซักประวัติ: แพทย์จะซักถามอย่างละเอียดเกี่ยวกับอาการ ประวัติการเจ็บป่วย พฤติกรรมการใช้ชีวิต และพฤติกรรมการกินของผู้ป่วย

การตรวจร่างกาย: แพทย์จะตรวจสุขภาพทั่วไป ตรวจช่องท้อง และประเมินสัญญาณความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร

Thuốc nào điều trị hội chứng ruột kích thích?

ตรวจทางห้องปฏิบัติการ:

การตรวจเลือด: เพื่อประเมินภาวะการอักเสบ ภาวะโลหิตจาง และความผิดปกติของอิเล็กโทรไลต์

การตรวจอุจจาระ: เพื่อตรวจหาเลือด แบคทีเรีย ปรสิต หรือเซลล์ที่ผิดปกติ

การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่: เพื่อสังเกตเยื่อบุลำไส้ใหญ่โดยตรง เพื่อหาความเสียหาย ติ่งเนื้อ หรือเนื้องอก

Xét nghiệm phân là gì? Mục đích của việc xét nghiệm phân

นอกจากนี้ แพทย์อาจสั่งให้ตรวจเพิ่มเติม เช่น การเอกซเรย์ช่องท้อง หรือการอัลตราซาวนด์ช่องท้อง ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี การวินิจฉัยโรค โรคลำไส้แปรปรวนเรื้อรังอย่างถูกต้อง จะช่วยระบุสาเหตุของโรค และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพได้

4. การรักษา

ปัจจุบันยังไม่มียาหรือวิธีการใดที่สามารถรักษาโรคโรคลำไส้แปรปรวนเรื้อรังให้หายขาดได้ การรักษาส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่การควบคุมอาการและป้องกันการกลับเป็นซ้ำ ยาที่มักใช้ ได้แก่: ยาคลายกล้ามเนื้อเรียบ ยารักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ยาแก้ท้องเสีย ท้องผูก ยาต้านความวิตกกังวล และซึมเศร้า เป็นต้น

การซื้อยารักษาโรคลำไส้แปรปรวนเรื้อรัง ด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่งและอาจนำไปสู่ผลเสียที่ร้ายแรงได้ ดังนั้น ผู้ป่วยต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการรักษา

4.1 การควบคุมอาหาร

การควบคุมอาหารอย่างเหมาะสมมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอาการของโรค และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ต่อไปนี้เป็นหลักการทั่วไปในการควบคุมอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนเรื้อรัง:

รับประทานอาหารมื้อเล็กๆ แต่บ่อยครั้ง: แทนที่จะรับประทานอาหารมื้อหลัก 3 มื้อ ให้แบ่งเป็นมื้อเล็กๆ 5-6 มื้อต่อวัน เพื่อลดภาระของระบบย่อยอาหาร

รับประทานอาหารช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียด: การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดจะช่วยให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงของอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ

ดื่มน้ำให้เพียงพอ: น้ำช่วยทำให้ อุจจาระ นุ่ม ลื่น ย่อยง่าย และป้องกันอาการท้องผูก ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน

จำกัดอาหารรสจัด อาหารที่มีไขมันสูง: อาหารเหล่านี้สามารถกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น

7 tác hại của ăn cay quá mức mà bạn ít ngờ tới

หลีกเลี่ยงอาหารจานด่วน เครื่องดื่มอัดลม: อาหารเหล่านี้มักมีน้ำตาล ไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และสารเคมี ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อระบบย่อยอาหาร

Dinh dưỡng hợp lý cho người cao tuổi trong mùa covid 19

จำกัดอาหารที่ย่อยง่าย: อาหารบางชนิด เช่น กะหล่ำปลี บรอกโคลี ถั่วฝักยาว นมวัว อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อยในบางคน

เพิ่มอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้: ใยอาหารที่ละลายน้ำได้ช่วยทำให้อุจจาระนุ่ม ย่อยง่าย และช่วยในการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ อาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ได้แก่ ข้าวโอ๊ต กล้วย แอปเปิ้ล มันฝรั่ง แครอท

10 เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ทำกินเองได้ง่าย ๆ – Krungsri Credit Card

เพิ่มอาหารที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์: โพรไบโอติกส์ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยในการย่อยอาหาร และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน อาหารที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ ได้แก่ โยเกิร์ต กิมจิ มิโซะ ..

.

4.2. การดำเนินชีวิต

นอกจากการรับประทานอาหารที่เหมาะสมแล้ว ผู้ป่วยยังจำเป็นต้องมีวิถีชีวิตที่ lành mạnh หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการลดอาการของโรคลำไส้แปรปรวน

นอนหลับให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย ลดความเครียด ผู้ป่วยควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน

จำกัดความเครียด: ความเครียดสามารถทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น ดังนั้นผู้ป่วยควรหาวิธีผ่อนคลาย เช่น ฝึกโยคะ นั่งสมาธิ ฟังเพลง ฯลฯ

9 cách làm giảm căng thẳng hiệu quả, ai cũng nên biết

ออกกำลังกายเป็นประจำ: การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างสุขภาพ ลดความเครียด และบรรเทาอาการของโรค ควรเลือกการออกกำลังกายเบา ๆ เช่น การเดิน โยคะ ว่ายน้ำ ฯลฯ

หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่สามารถกระตุ้นระบบย่อยอาหารและทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น

จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์สามารถกระตุ้นระบบย่อยอาหารและทำให้ท้องเสียได้

จัดการความเครียด: ความเครียดสามารถทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น ดังนั้นผู้ป่วยควรหาวิธีผ่อนคลาย เช่น ฝึกโยคะ นั่งสมาธิ ฟังเพลง …

Hạn chế sử dụng bia rượu và chất kích thích - Dân Khang Pharma

5. การใช้ BIOPRO โปรไบโอติกส์ ลดอาการลำไส้แปรปรวนเรื้อรัง

“เพื่อลดอาการของโรคลำไส้แปรปรวนเรื้อรัง นอกจากการเลือกรับประทานอาหารและการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสมแล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างโปรไบโอติกส์ BIOPRO ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผลิตภัณฑ์นี้ถือเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับอาการลำไส้แปรปรวนเรื้อรัง”

BIOPRO โปรไบโอติกส์ ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี SMC ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะจากสหรัฐอเมริกา ช่วยให้จุลินทรีย์ที่ดีมีชีวิตรอดได้นานขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดในกระเพาะอาหาร นำไปสู่ประสิทธิภาพที่ยาวนานและรวดเร็วต่ออาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย BIOPRO โปรไบโอติกส์ ภูมิใจที่ได้นำเสนอและได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่งานวิจัยที่ประสบความสำเร็จสองเรื่องแรกของโลก นั่นคือ “Multi-Strain – High Concentration Spore Probiotics” และ “Pre-Active Spore Probiotics Technology” ในงานประชุมวิชาการนานาชาติ Probiotic, Prebiotic, Gut Microbiota & Health (IPC 2019) ครั้งที่ 13 ซึ่งเป็นงานประชุมวิชาการที่ใหญ่ที่สุดในโลกเกี่ยวกับโปรไบโอติกส์และสปอร์โปรไบโอติกส์ จัดขึ้นที่สาธารณรัฐเช็ก

BIOPRO เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ ประกอบด้วยจุลินทรีย์ที่ดี 5 พันล้านตัว จาก 4 สายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในระบบย่อยอาหาร ได้แก่ Bacillus clausii, Bacillus subtilis, Bacillus coagulans และ Xylooligosaccharides (XOS)

ประสิทธิภาพสูง:

  • Bacillus clausii: ปรับปรุงระบบนิเวศน์จุลินทรีย์ในลำไส้ กำจัดแบคทีเรียที่เป็นอันตราย สร้างสมดุลของระบบนิเวศในลำไส้
  • Bacillus subtilis: ผลิตเอนไซม์ย่อยอาหาร ช่วยในการย่อยอาหาร ลดอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเสีย ท้องผูก
  • Bacillus coagulans: เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มความต้านทานโรค ช่วยต้านทานโรคภัยไข้เจ็บ ฟื้นฟูร่างกายหลังป่วย
  • Xylooligosaccharides (XOS): กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มการผลิตเซลล์ภูมิคุ้มกัน อินเตอร์ลิวคิน อินเตอร์เฟอรอน เพิ่มความต้านทาน ลดความเสี่ยงในการเกิดโรค
  • ปลอดภัย: ปราศจากสารเพิ่มปริมาณและสารปรุงแต่ง เป็นมิตรกับระบบนิเวศในลำไส้
    BIOPRO จะนำความสมดุลมาสู่ระบบนิเวศในลำไส้ ช่วยในการย่อยอาหาร เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และยุติฝันร้ายของอาการลำไส้แปรปรวนเรื้อรัง
 
 
 
 
0948358177