อาการปวดท้องเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายเมื่อหิว ดังนั้น หลายคนจึงไม่ใส่ใจ หากคุณปวดเกร็งเป็นระยะๆ อาจเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ได้ แล้งปวดท้องเมื่อหิวคือโรคอะไร? เป็นอันตรายหรือไม่? มาค้นพบกับ bioprothailand.com กันเถอะ
1. ปวดท้องเป็นพัก ๆ เวลาหิวเกิดจากอะไร? เป็นอันตรายหรือไม่?
1.1. โรคกระเพาะอาหารอักเสบ
โรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการปวดท้องเมื่อหิว กระเพาะอาหารอักเสบเกิดขึ้นเมื่อเยื่อบุกระเพาะอาหารติดเชื้อหรือเสียหาย เมื่อท้องว่างกรดในกระเพาะอาหารอาจทำให้เกิดอาการปวดและไม่สบายตัวได้ โรคกระเพาะอาหารอักเสบต้องได้วินิจฉัยและรักษาโดยหมอเพื่อลดอาการและความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนด้วย
1.2. อาหารย่อยยาก
อาการอาหารย่อยยากคือภาวะที่ระบบย่อยอาหารย่อยอาหารได้ยาก เมื่อท้องว่างกล้ามเนื้อท้องจะหดตัวมากขึ้นเพื่อพยายามย่อยอาหารที่เหลือ สิ่งนี้อาจทำให้เกิดความเจ็บปวดและตึงเครียดในช่องท้องได้ การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม นิสัยการกินเร็ว และความเครียดสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อาหารย่อยยากได้
1.3. อาการลำไส้แปรปรวน (IBS)
IBS เป็นโรคทางเดินอาหารที่พบบ่อยซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องผูก หรือท้องเสีย อาการปวดท้องเมื่อหิวอาจเป็นหนึ่งในอาการของ IBS
นอกจากอาการปวดท้องแล้ว โรคนี้มักมาพร้อมกับอาการต่อไปนี้:
- ดิสเปปเซีย
- ท้องผูกหรือท้องร่วงบ่อย
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ
- ความวิตกกังวลความเครียด
- ขับถ่าย
1.4. แผลในกระเพาะอาหาร
แผลในกระเพาะอาหารคือภาวะที่เยื่อบุภายในทางเดินอาหาร โดยเฉพาะกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นเสียหาย แผลในกระเพาะอาหารมีสาเหตุที่พบบ่อยหลายประการ รวมถึงเชื้อ Helicobacter pylori และใช้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ในระยะยาว เช่น ไอบูโพรเฟน และนาโพรเซน ปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเครียด และบริโภคอาหารรสเผ็ดไม่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร แต่อาจทำให้อาการเพิ่มขึ้นได้
อาการของแผลในกระเพาะอาหาร ได้แก่:
- ปวดท้องและรู้สึกแสบร้อน
- รู้สึกท้องอืด มีแก๊สหรือเรอหรือแสบร้อนกลางอก
- บริโภคอาหารที่มีไขมันยาก
- คลื่นไส้
อาการที่พบบ่อยที่สุดของแผลในกระเพาะอาหารคือปวดแสบร้อนในกระเพาะอาหาร กรดในน้ำย่อยทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงและเป็นตะคริว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อท้องว่าง จึงมักมีอาการระหว่างมื้ออาหารและตอนกลางคืน
อาการปวดสามารถลดลงได้ด้วยการรับประทานอาหารที่ทำให้กรดเป็นกลางหรือใช้ยาลดกรด อย่างไรก็ตาม อาการสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ง่ายในภายหลัง หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รักษา แผลในกระเพาะอาหารอาจทำให้เกิดปัญหาดังต่อไปนี้:
- เลือดออกภายใน: สูญเสียเลือดในเวลานานทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง ในกรณีที่เสียเลือดอย่างรุนแรงพร้อมกับอาเจียนเป็นสีดำหรือมีเลือดปน จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อรักษาทันที
- กระเพาะอาหารทะลุมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อร้ายแรงในช่องท้อ
- ลำไส้อุดตัน: แผลในกระเพาะอาหารสามารถปิดกั้นทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น อาเจียน น้ำหนักลด หรือมีแผลเป็น
- มะเร็งกระเพาะอาหาร: ผู้ที่ติดเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร
2. ปวดท้องเป็นพักๆ เมื่อหิวควรไปหาหมอเมื่อไหร่?
หากคุณปวดท้องบ่อยๆ เมื่อหิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปวด 1-2 สัปดาห์ และทำให้ชีวิตประจำวันลำบากขึ้น ควรไปหาหมอเพื่อตรวจและวินิจฉัยโรคให้ถูกต้อง หมอจะทำการทดสอบและตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุของอาการและให้การรักษาเหมาะสม
ต่อไปนี้คือบางกรณีที่คุณควรไปหาหมอหากมีอาการปวดท้องเป็นพัก ๆ:
- ปวดท้องเฉียบพลันและรุนแรง: หากคุณมีอาการปวดท้องเฉียบพลัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการรุนแรงมากและไม่ลดลงหลังจากช่วงเวลาสั้นๆ ควรไปหาหมอทันที นี่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาฉุกเฉิน เช่น ลำไส้บิด ไส้ติ่งอักเสบ หรือการติดเชื้อร้ายแรง
- ปวดท้องอย่างต่อเนื่องและเกิดขึ้นซ้ำ: หากคุณประสบกับตะคริวที่ท้องเป็นเวลานานหรือเกิดขึ้นซ้ำๆ บ่อยครั้ง นี่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาระยะยาว เช่น โรคลำไส้อักเสบ ลำไส้ใหญ่อักเสบ หรือโรคแผลในกระเพาะอาหาร
- ปวดท้องร่วมกับอาการอื่นๆ: หากปวดท้องร่วมกับอาการต่างๆ เช่น อาเจียนรุนแรง มีไข้สูง ขาดน้ำ ท้องเสียสีดำ หรือถ่ายเป็นเลือด นี่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาร้ายแรง
- ปวดท้องหลังจากผ่าตัด: ปวดท้องหลังผ่าตัดอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด เช่น ติดเชื้อ อักเสบ หรือแผลในกระเพาะอาหาร
3. อาหารที่ไม่ควรทานเมื่อหิว
เมื่อคุณปวดท้องเวลาหิว มีอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มความเจ็บปวดและไม่สบายตัว ด้านล่างนี้คืออาหารบางอย่างที่ควรจำกัดเมื่อหิว
3.1. ผลไม้
เมื่อปวดท้อง มีผลไม้บางชนิดที่ควรจำกัดหรือหลีกเลี่ยงการรับประทานเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อาการเพิ่มขึ้นหรือระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ ต่อไปนี้คือผลไม้บางชนิดที่คุณควรพิจารณาเมื่อปวดท้อง:
- กล้วย: มีแมกนีเซียมและวิตามินซีเยอะ ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและสนับสนุนการเผาผลาญ อย่างไรก็ตาม ทานกล้วยเมื่อหิวอาจทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้ และระดับแมกนีเซียมในเลือดที่สูงอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลในระบบหัวใจและหลอดเลือด ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
- กีวี: มีเอนไซม์โปรตีเอสและไฟเบอร์สูง อาจระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ได้
- ลูกแพร์: มีกรดและไฟเบอร์ หากคุณมีปัญหาทางเดินอาหาร ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานลูกแพร์หรือเลือกลูกแพร์สุกนิ่มเพื่อลดผลกระทบต่อกระเพาะอาหารและลำไส้
- ผลไม้รสเปรี้ยว: ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้มโอ ส้ม และมะนาว มีกรดเยอะมาก รับประทานเมื่อหิวอาจทำให้เกิดอาการเสียดท้องได้ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระเพาะอาหารอักเสบ แผลในกระเพาะอาหาร และผลเสียต่อลำไส้เล็กส่วนต้น
3.2. ผักดิบ
คาร์โบไฮเดรตส่วนใหญ่ในผัก แม้แต่ประเภทเส้นใยเชิงซ้อนที่ดีต่อสุขภาพจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มมากเกินไปและเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารลดลง โดยเฉพาะผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บรอกโคลีและกะหล่ำดอกนั้นย่อยยาก ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องอืด และปวดท้องได้ง่าย ทำให้เกิดแรงกดดันต่อกระเพาะอาหารมากขึ้น
นอกจากนี้ มะเขือเทศที่มักรับประทานกับสลัดยังมีกรดแทนนิกในปริมาณสูง ซึ่งจะทำให้ระดับกรดในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น นี่อาจทำให้โรคแผลในกระเพาะอาหารแย่ลงได้
3.3. มันเทศ
มันเทศมีเรซินและแทนนินเยอะ เมื่อรับประทานเวลาหิวสามารถกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารได้ ทำให้รู้สึกแทะและไม่สบายท้อง
3.4. น้ำอัดลม
น้ำอัดลมอาจทำให้เกิดอาการท้องอืดและเพิ่มแก๊สในกระเพาะอาหาร ส่งผลให้ท้องไส้ปั่นป่วนมากขึ้น
3.5. โยเกิร์ต
เมื่อหิว กระเพาะอาหารจะหลั่งกรดเยอะซึ่งสามารถลดจำนวนแบคทีเรียมีประโยชน์ในโยเกิร์ตได้ ดังนั้นผลกระทบของอาหารนี้จะลดลงอย่างมาก เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ที่ปวดท้องเมื่อหิวควรรอ 1.5 ถึง 2 ชั่วโมงหลังอาหารหลักก่อนรับประทานโยเกิร์ต
3.6. อาหารรสเผ็ด
อาหารรสเผ็ดอาจทำให้ท้องระคายเคืองและทำให้ท้องเสียได้ โดยเฉพาะเมื่อท้องว่าง
4. อาหารควรรับประทานเมื่อหิว
นอกจากหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดอาการไม่สบายแล้ว คุณควรใส่ใจกับการเลือกอาหารที่ดีต่อกระเพาะเมื่อหิวด้วย
- แตงโม
- ขนมปัง เมล็ดธัญพืชไม่มียีสต์
- น้ำผึ้ง
- ไข่
- ข้าวโอ๊ต บัควีท โจ๊กข้าวโพด มอลต์สกัดจากข้าวบาร์เลย์
อาหารเหล่านี้มีความสามารถในการสร้างชั้นเยื่อเมือกป้องกัน กระตุ้นระบบย่อยอาหาร และป้องกันความเสียหายจากกรดไฮโดรคลอริกที่ผนังกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังมีโปรตีน ธาตุเหล็ก และวิตามิน ซึ่งช่วยกำจัดโลหะหนักและสารพิษออกจากร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำผึ้งมีบทบาทในการให้พลังงานอย่างรวดเร็วแก่ร่างกายและเสริมสร้างการทำงานของสมอง
5. วิธีทานอาหารเมื่อปวดท้องเป็นพักๆ เวลาหิว
5.1. ทานอย่างสม่ำเสมอ
มีหมายเหตุสำคัญบางประการที่ต้องปฏิบัติตามเมื่อรับประทานอาหารดังนี้:
- สังเกตเวลามื้ออาหาร: การรับประทานอาหารตรงเวลาช่วยให้มั่นใจว่าอาหารจะได้ส่งไปที่กระเพาะอาหารได้ทันเวลาเพื่อให้ตรงกับปริมาณกรดในกระเพาะอาหารที่หลั่งออกมา
- มีสมาธิและเคี้ยวให้ละเอียด: การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดจะช่วยลดอาการปวดท้องและลดปริมาณก๊าซที่เข้าสู่ระบบทางเดินอาหารทำให้อาการปวดท้องดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงการนอนทันทีหลังรับประทานอาหาร: รอ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารก่อนจะนอนราบเพื่อหลีกเลี่ยงกรดไหลย้อนจากกระเพาะอาหาร
- ทานของว่างเพิ่มเติม: เพิ่มของว่างเพื่อไม่ให้ท้องมีเวลาว่างมากเกินไป การกินอาหารมากเกินไปในคราวเดียวจะทำให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ท้องของคุณทำงานหนักเกินไป
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารในเวลากลางคืน: หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารดึก การรับประทานอาหารดึกทำให้กระเพาะต้องทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีเวลาพักผ่อน
5.2. เลือกอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหาร
อาหารแต่ละมื้อต้องแน่ใจว่ามีสารอาหารเพียงพอในการนำพลังงานมาสู่ร่างกายและรักษาสุขภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้คุณควรเสริมอาหารที่มีแคลอรี่สูงและให้ “ความเข้มแข็ง” ดังนี้
- โปรตีนไร้ไขมัน: รวมถึงสัตว์ปีก ถั่ว และแหล่งโปรตีนจากพืชอื่นๆ โปรตีนเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ ช่วยให้ร่างกายรักษาสุขภาพและให้พลังงาน
- ธัญพืชไม่ขัดสี: ประกอบด้วยข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต และผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลี ธัญพืชเหล่านี้อุดมไปด้วยเส้นใย วิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งช่วยสร้างพลังงานที่ยั่งยืนและช่วยให้อิ่มนาน
- ผลไม้: เป็นแหล่งวิตามิน ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ เลือกผักและผลไม้สดสีสันสดใสเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
- ไขมันเพื่อสุขภาพ: พบในถั่ว อะโวคาโด มะกอก และแหล่งอื่นๆ ของไขมันไม่อิ่มตัว ไขมันมีบทบาทสำคัญในการให้พลังงานและดูดซึมวิตามิน
- ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำหรือทดแทนนม: เลือกนมไขมันต่ำหรือทดแทนที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและโปรตีน ซึ่งจะช่วยให้สารอาหารที่สำคัญแก่กระดูกและกล้ามเนื้อ
จำกัดอาหารที่มีน้ำตาล เกลือ ไขมันอิ่มตัว และคาร์โบไฮเดรตขัดสีสูง ในเวลาเดียวกัน ให้จำกัดอาหารแปรรูปและอาหารจานด่วน เนื่องจากอาหารเหล่านี้มักจะมีไขมันและสารกันบูดที่ไม่ดีต่อสุขภาพในปริมาณสูง
การเพิ่มอาหารเหล่านี้ลงในอาหารประจำวันของคุณจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับสารอาหารและพลังงานที่เพียงพอสำหรับร่างกาย ขณะเดียวกันก็จำกัดสารที่ไม่ดีที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
5.3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ดื่มน้ำให้เพียงพอเมื่อหิวมีผลสำคัญต่อร่างกายหลายประการ ได้แก่:
- ความหิวลดลง: บางครั้งร่างกายอาจส่งสัญญาณความหิวเมื่อคุณกระหายน้ำจริงๆ ดื่มน้ำให้เพียงพอสามารถช่วยลดความหิวและหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ไม่จำเป็นมากเกินไป
- รองรับการย่อยอาหาร: น้ำทำให้อาหารอ่อนตัวและทำให้การย่อยอาหารง่ายขึ้น เมื่อคุณดื่มน้ำให้เพียงพอ น้ำจะช่วยสร้างเมือกในระบบย่อยอาหาร ลดความเครียด และสนับสนุนการเผาผลาญอาหาร
- รักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย: เมื่อหิวร่างกายยังคงต้องการน้ำเพื่อรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยรักษาสมดุลของน้ำและไฟฟ้าระหว่างเซลล์ ทำให้การทำงานพื้นฐานต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดี
- เพิ่มพลังงาน: เมื่อร่างกายของคุณขาดน้ำ คุณอาจรู้สึกเหนื่อยและขาดพลังงาน การดื่มน้ำให้เพียงพอจะทำให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอและตื่นตัวอยู่เสมอ
- รองรับการทำงานของไต: น้ำช่วยกำจัดของเสียและสารพิษผ่านการปัสสาวะ ดื่มน้ำเพียงพอช่วยรักษาการทำงานของไตที่ดีและป้องกันปัญหาเกี่ยวกับไต
5.4. จัดการความเครียดอย่างดี
หลายคนมีอาการปวดท้อง ท้องอืด และปวดท้องเป็นพักๆ เมื่อมีความเครียด การจำกัดสถานการณ์ที่ตึงเครียดสามารถช่วยปกป้องสุขภาพของคุณได้ อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเราได้ตลอดเวลา หากต้องการเพิ่มความเข้มข้นของฮอร์โมนโดปามีนแห่งความสุขระหว่างออกกำลังกาย คุณสามารถทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ออกกำลังกาย วิ่งจ๊อกกิ้ง และนั่งสมาธิ
หากคุณปวดท้องเป็นพักๆ ขณะหิว นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาระบบย่อยอาหาร และควรตรวจเพื่อรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด หวังว่าความรู้ในบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับอาการของตัวเองมากขึ้น ขอให้คุณมีสุขภาพแข็งแรง
6. BIOPRO – รองรับทุกปัญหาการย่อยอาหาร
BIOPRO เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเฉพาะทางที่ออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาทางเดินอาหารทั้งหมด ด้วยสูตรเฉพาะและส่วนผสมจากธรรมชาติ BIOPRO นำความสมดุลและรองรับระบบย่อยอาหารของเรา
ผลิตภัณฑ์นี้ออกแบบมาเพื่อช่วยลดปัญหาต่างๆ เช่น อาหารไม่ย่อย มีแก๊ส ท้องอืด และย่อยอาหารลำบาก สูตรพิเศษของ BIOPRO ช่วยให้เอนไซม์ย่อยอาหารที่จำเป็น ช่วยเพิ่มการย่อยและดูดซึมสารอาหารจากอาหาร
นอกจากนี้ BIOPRO ยังสามารถบรรเทาอาการโรคกระเพาะอาหารติดเชื้อ ลำไส้เล็กส่วนต้น และโรคทางเดินอาหารอื่นๆ ส่วนผสมจากธรรมชาติในผลิตภัณฑ์นี้ช่วยบรรเทาอาการอักเสบและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร
BIOPRO รองรับระบบย่อยอาหารอย่างครอบคลุม ช่วยปรับปรุงการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร จึงช่วยทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นและปรับปรุงคุณภาพชีวิต ด้วย BIOPRO คุณสามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารได้อย่างสะดวกสบายและมั่นใจโดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาทางเดินอาหาร
7. ข้อมูลอ้างอิง
https://health.clevelandclinic.org/hunger-pangs
https://www.vinmec.com/en/gastroenterology-hepatobiliary/health-news/causes-of-stomach-pain-when-hungry/
ด้านบนเป็นบทความที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคำถามว่าปวดท้องเวลาหิวเป็นสัญญาณของโรคอะไร? เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจภาวะนี้ได้ดีขึ้นเพื่อให้มีวิธีป้องกันและรักษาเหมาะสม