อาการปวดท้องรุนแรงเป็นภาวะที่พบบ่อยโดยไม่คำนึงถึงอายุ ไม่เพียงแต่ส่งสัญญาณถึงโรคที่ซ่อนอยู่เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยด้วย บทความนี้จะให้ข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับสาเหตุ สัญญาณเตือน และวิธีการแก้ไขอาการปวดท้องรุนแรงอย่างมีประสิทธิภาพ
1. ปวดท้องรุนแรงคือโรคอะไร?
แม้ว่าอาการปวดท้องรุนแรงไม่ได้ส่งสัญญาณถึงสภาวะที่เป็นอันตรายเสมอไป แต่ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคต่างๆ ได้ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและระดับของความเจ็บปวด อาการปวดท้องส่วนใหญ่มักเกิดจากปัญหาระบบย่อยอาหาร ได้แก่ กระเพาะอาหาร หลอดอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่… ตำแหน่งที่ปวดและสาเหตุที่อาจเกิดขึ้น:
- วดท้องบริเวณส่วนบน: อาจเกิดจากพยาธิ หลอดอาหารอักเสบ หรือโรคตับและทางเดินน้ำดี
- ปวดท้องรุนแรงระยะยาว: เป็นสัญญาณเตือนอันตรายของโรคนิ่ว มะเร็งตับ มะเร็งน้ำดี โรคตับแข็ง มะเร็งกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะเฉียบพลัน…
- ปวดท้องรุนแรงเฉียบพลัน: เป็นในกรณีระบบย่อยอาหารไม่สมดุลเนื่องจากออกกำลังกายหนักหลังรับประทานอาหาร หรือสำลักอาหาร
- ปวดท้องน้อย (ผู้หญิง): มักเกี่ยวข้องกับโรคของมดลูกและรังไข่
2. สรุป 10 อาการปวดท้องรุนแรงที่ไม่ควรมองข้าม
2.1. ปวดท้องและตัวหนาว
ปวดท้องรุนแรงจนทำให้ตัวหนาว ไม่เพียงแต่ทำให้รู้สึกไม่สบาย แต่ยังมีความเสี่ยงต่อสุขภาพมากมาย ดังนั้นจึงไม่ควรละเลยโดยเด็ดขาด ต่อไปนี้คือสาเหตุทั่วไปบางประการของภาวะนี้:
- ไส้ติ่งอักเสบ: นี่เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอาการปวดเข้มข้นในแอ่งอุ้งเชิงกรานด้านขวาหรือช่องท้องส่วนล่าง อาการปวดท้องที่มาพร้อมกับอาการต่างๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ ท้องเสีย หรือท้องผูก
- โรคทางนรีเวชในสตรี: ได้แก่ ลำไส้ทะลุ ลำไส้อุดตัน ลำไส้ใหญ่อักเสบเฉียบพลันจากอะมีบา รังไข่บิดขั้ว… มักมีอาการร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ เลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ ปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์…
- ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ: เกิดจากแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา… ที่โจมตีระบบทางเดินปัสสาวะ อาการต่างๆ ได้แก่ ปวดท้องเป็นตะคริว แสบร้อนขณะปัสสาวะ ปัสสาวะขัด ปัสสาวะบ่อย และอาจมีไข้ร่วมด้วย
- พิษจากสารตะกั่ว ขาดแคลเซียม ภูมิแพ้: อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงและหนาวได้ อย่างไรก็ตาม มักมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ชัก เหนื่อยล้า คัน ผื่น…
2.2. ปวดท้องรุนแรงเป็นระยะๆ
ปวดท้องเป็นอาการพบบ่อย แต่หากคุณมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงเป็นระยะๆ ติดต่อกันหลายวัน นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอันตรายบางชนิดที่ต้องได้รับการดูแลและรักษาอย่างทันท่วงที ต่อไปนี้คือสาเหตุทั่วไปบางประการของภาวะนี้:
- ความผิดปกติของแบคทีเรียในลำไส้ ความผิดปกติของการย่อยอาหาร: เนื่องจากความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งผลให้กล้ามเนื้อกระตุกผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการปวดท้องเป็นระยะๆ ตะคริว การขับถ่ายเปลี่ยนแปลง ท้องอืด คลื่นไส้ และท้องเฟ้อ
- ติดเชื้อจากพยาธิ: พยาธิในช่องท้องอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงเป็นระยะๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพยาธิเข้าไปในท่อน้ำดี อาจมีอาการร่วมด้วย เช่น เหงื่อออกมากเกินไปและปวดท้องส่วนบน
- ลำไส้ใหญ่อักเสบทำให้เกิดอาการลำไส้แปรปรวน: ลำไส้ใหญ่อักเสบทำให้เกิดอาการกระตุกและความผิดปกติของลำไส้ แต่ไม่ทำให้เกิดความเสียหาย อาการที่พบบ่อย: ปวดท้องรุนแรงเป็นระยะๆ ปวดท้องตื้อๆ ก้อนแข็งในช่องท้องด้านขวา ท้องเสีย ท้องผูก ถ่ายเป็นเลือด…
2.3. ปวดท้องรุนแรงในช่วงมีประจำเดือน
ปวดท้องรุนแรงในช่วงมีประจำเดือนเป็นอาการที่พบบ่อยในผู้หญิงในช่วงมีประจำเดือน ภาวะนี้ไม่เพียงแต่รบกวนชีวิตประจำวัน แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพและจิตวิญญาณของผู้หญิงด้วยจำแนกประเภทของประจำเดือน:
- ปวดประจำเดือนตามธรรมชาติ: นี่เป็นภาวะที่พบบ่อย มักเริ่มด้วยอาการปวดเบาๆ ในช่วงวัยแรกรุ่น และค่อยๆ ลดลงเมื่อเป็นผู้ใหญ่ อาการปวดมักเกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันแรกของรอบประจำเดือน และค่อยๆ ลดลงหลังจากนั้น อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
- ปวดประจำเดือนรุนแรง: ปวดต่อเนื่องและรุนแรงในเวลาหลายวัน ซึ่งสามารถเตือนถึงปัญหาภาวะเจริญพันธุ์ได้ กรณีนี้มักไม่มีอาการอื่นนอกจากปวดท้อง
2.4. ปวดท้องรุนแรงและคลื่นไส้
ปวดท้องคลื่นไส้เป็นอาการพบบ่อยที่อาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ ได้แก่:
- นิสัยการทานอาหาร: รับประทานอาหารมากเกินไป รับประทานอาหารรสเผ็ดและมันเยิ้ม ดื่มแอลกอฮอล์มาก ใช้สารกระตุ้น ฯลฯ อาจทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด คลื่นไส้ และปวดท้อง
- อาหารเป็นพิษ : เนื่องจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต… ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องเสีย อาเจียน มีไข้…
- แผลในกระเพาะอาหาร: เยื่อบุกระเพาะอาหารถูกทําลายเนื่องจากแบคทีเรีย Helicobacter pylori หรือใช้ยาแก้ปวด NSAIDs มากเกินไปทำให้เกิดอาการปวดท้อง แสบร้อนกลางอก คลื่นไส้…
- ลำไส้แปรปรวน: ความผิดปกติของลำไส้ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสีย ท้องผูก คลื่นไส้…
- โรคกรดไหลย้อน (GERD): กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนเข้าสู่หลอดอาหาร ทำให้แสบร้อนกลางอก เรอ เจ็บแสบคอ คลื่นไส้…
2.5. ปวดท้องรุนแรงในระหว่างตั้งครรภ์
ปวดท้องน้อยในระหว่างตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกกรณีจะเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์จึงต้องใส่ใจในการดูแลสุขภาพของทารกในครรภ์และตนเอง
- การทำรังของทารก: เมื่อทารกในครรภ์แนบชิดกับมดลูก คุณแม่อาจรู้สึกปวดท้องนิดหนึ่งหรือปวดรุนแรงเหมือนเมื่อมีประจำเดือน
- ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง: การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนทำให้เอ็นมดลูกผ่อนคลายทำให้เกิดอาการปวด
- ท้องผูก: อาการท้องผูกเป็นปัญหาที่พบบ่อยในหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการปวดท้องน้อยได้
- การเจริญเติบโตของมดลูก: เมื่อมดลูกมีขนาดเพิ่มขึ้น ก็สามารถบีบรัดอวัยวะโดยรอบ ทำให้เกิดอาการปวดท้องได้
แม้ว่าอาการปวดท้องส่วนล่างในระหว่างตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตรายและสามารถหายไปได้เองหลังจากผ่านไป 2-3 วัน แต่บางเคสอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาร้ายแรงที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ทันที ต่อไปนี้เป็นสัญญาณที่ควรระวัง:
- ปวดท้องรุนแรง จุกเสียด เป็นเวลานาน: อาการปวดอาจเกิดขึ้นอย่างกะทันหันหรือค่อยๆ เพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ร่วมกับอาการต่างๆ เช่น เลือดออกทางช่องคลอด คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์นอกมดลูก รกลอกตัวก่อนกำหนด หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ในการตั้งครรภ์
- เหนื่อยล้า เวียนศีรษะ เป็นลม: อาจเป็นสัญญาณของภาวะครรภ์เป็นพิษ ภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายในการตั้งครรภ์
- เลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ: อาจเป็นสัญญาณของการแท้งบุตร รกลอกตัวก่อนกำหนด หรือปัญหาอื่นๆ ของทารกในครรภ์
2.6. ปวดท้องรุนแรงและท้องเสีย
ปวดท้องและท้องเสียเป็นอาการทั่วไปที่อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่:
- รับประทานอาหารที่ไม่ปลอดภัย: แบคทีเรีย ไวรัส และปรสิตทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ
- โรคทางเดินอาหาร: ลำไส้ใหญ่อักเสบ ลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผล ลำไส้แปรปรวน โรค celiac ไส้ติ่งอักเสบ…
- โรค Celiac: โรคภูมิต้านตนเองที่ทำให้ร่างกายไม่สามารถทนต่อกลูเตน (โปรตีนที่มีในข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์) เมื่อรับประทานอาหารที่มีกลูเตน ผู้ที่เป็นโรคเซลิแอกอาจมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย ท้องอืด ท้องผูก น้ำหนักลด…
- อาหาร: รับประทานกลูเตนมากเกินไปอาจทำให้โรค celiac แย่ลงได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรค Celiac จึงต้องรับประทานอาหารปลอดกลูเตนอย่างเข้มงวด
2.7. ปวดท้องรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ
ปวดท้องโดยไม่ทราบสาเหตุเป็นอาการทั่วไปที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ อาการปวดท้องโดยไม่ทราบสาเหตุต่างจากความเจ็บปวดที่เกิดจากการบาดเจ็บเฉพาะจุด ซึ่งเกิดจากปัจจัยที่ซับซ้อนหลายประการ ได้แก่:
กลไกทางสรีรวิทยา:
- การเคลื่อนไหวของลำไส้เปลี่ยนแปลง: การหดตัวของลำไส้ผิดปกติเนื่องจากสาเหตุหลายประการ เช่น ความเครียด การเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหาร แพ้อาหาร… อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องได้
- ความไวของลำไส้เพิ่มขึ้น: ระบบประสาทในลำไส้มีความไวมากเกินไป ทำให้ลำไส้ตอบสนองต่อสารระคายเคืองได้ง่าย ทำให้เกิดอาการปวดท้อง
ปัจจัยทางจิตวิทยา:
- ความเครียด: เมื่อร่างกายมีความเครียด ระบบย่อยอาหารก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน ทำให้เกิดอาการลำไส้กระตุก ท้องอืด อาหารไม่ย่อย และปวดท้อง
- อาการซึมเศร้า: ความผิดปกติทางอารมณ์อย่างภาวะซึมเศร้าอาจส่งผลต่อระบบประสาทในลำไส้ ทำให้เกิดอาการทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย หรือท้องผูก
นิสัยการทานอาหาร:
- ขาดสารอาหาร: ร่างกายขาดเอนไซม์ย่อยอาหารที่จำเป็น เช่น แลคโตส กลูเตน ฟรุคโตส… ซึ่งอาจทำให้อาหารไม่ย่อย ท้องอืด และปวดท้องได้
- ใช้สารกระตุ้น: ดื่มกาแฟ แอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ฯลฯ มากเกินไป อาจทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารระคายเคือง ทำให้เกิดอาการปวดท้อง แสบร้อนกลางอก และกรดไหลย้อน
- ใช้ยาแก้ปวดในทางที่ผิด: การใช้ยาแก้ปวดมากเกินไป โดยเฉพาะ NSAIDs อาจทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารถูกทำลาย ทำให้เกิดอาการปวดท้องและมีเลือดออกในทางเดินอาหาร
โรคที่เป็นไปได้:
- โรคถุงผนังลำไส้อักเสบ: ถุงผนังลำไส้อักเสบเป็นภาวะที่ผนังอวัยวะในลำไส้ใหญ่เกิดการติดเชื้อ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงในช่องท้องด้านขวาล่าง
- ไส้ติ่งอักเสบ: ไส้ติ่งอักเสบเป็นภาวะที่ไส้ติ่งติดเชื้อ ทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงบริเวณช่องท้องด้านขวาล่าง ร่วมกับมีไข้ คลื่นไส้ และอาเจียน
- การติดเชื้อในลำไส้: การติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิตอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้อง
2.8. ท้องผูกทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรง
ท้องผูกเป็นภาวะที่พบบ่อย ส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายหลายอย่าง เช่น เหนื่อยล้า เบื่ออาหาร คลื่นไส้ ท้องอืด และโดยเฉพาะปวดท้องรุนแรง
แม้ว่านี่จะเป็นปัญหาปกติที่ทุกคนต้องเผชิญอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต แต่หากอาการนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งติดต่อกันหลายวัน ก็ต้องใส่ใจเพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นได้ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากอาการท้องผูก:
- ปวดท้องรุนแรง: เมื่ออุจจาระค้างในลำไส้ใหญ่เป็นเวลานานอาจทำให้อุจจาระกดทับผนังลำไส้ทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรง
- ลำไส้ใหญ่แตก: ในกรณีที่ท้องผูกรุนแรงหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้ลำไส้ใหญ่แตกซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- ริดสีดวงทวาร: อาการท้องผูกทำให้ผู้ป่วยต้องเครียดมากเมื่อถ่ายอุจจาระ ทำให้เกิดริดสีดวงทวารภายนอกและริดสีดวงทวารภายใน
- แผลปริที่ขอบทวารหนัก: เนื่องจากเบ่งอย่างแรงเมื่อถ่ายอุจจาระ ทวารหนักอาจร้าว ทำให้มีเลือดออกและปวดแสบปวดร้อน
- มะเร็งลำไส้: การวิจัยแสดงให้เห็นว่าอาการท้องผูกเรื้อรังสามารถเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ได้
2.9. ปวดท้องร่วมกับมีไข้สูง
ปวดท้องรุนแรงอาจเป็นสัญญาณของโรคต่างๆ ได้มากมาย ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยไปจนถึงระดับอันตราย ดังนั้นการระบุสาเหตุอย่างแม่นยำจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม สัญญาณเตือนอันตราย:
- ปวดท้องรุนแรง: ปวดรุนแรง ปวดบิดเป็นพักๆ ฉับพลันหรือค่อยๆ เพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป อาจมีอาการร่วมด้วย เช่น มีไข้สูง อาเจียน คลื่นไส้ ท้องเสีย ถ่ายเป็นเลือด ชัก…
- คอเคล็ด: นี่เป็นสัญญาณทั่วไปของโรคไข้กาฬหลังแอ่นที่ต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์ทันที
สาเหตุทั่วไปของอาการปวดท้องรุนแรง:
- การติดเชื้อในกระเพาะ ไส้ติ่งอักเสบ: มักมีไข้สูง (39-40 องศา) คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และถ่ายเป็นเลือด
- การติดเชื้อในลำไส้ที่เกิดจากไวรัส: ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน และมีไข้ต่ำๆ
- นิ่วในถุงน้ำดี: ทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงบริเวณลิ้นปี่ด้านขวา ลามไปยังไหล่ขวาและหลัง ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
- โรคแผลในกระเพาะอาหาร: ทำให้เกิดอาการปวดท้องตื้อๆ หรือรุนแรงบริเวณลิ้นปี่ มักเกิดขึ้นหลังรับประทานอาหารหรือเวลาหิว มีอาการแสบร้อนกลางอก เรอ และคลื่นไส้ด้วย
- ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน: ทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรงบริเวณลิ้นปี่ ลามไปที่หลัง ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และมีไข้
2.10. ปวดท้องน้อยเมื่อปัสสาวะ
ปวดท้องน้อยรุนแรงขณะปัสสาวะอาจเป็นสัญญาณอันตรายเตือนโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินปัสสาวะ แม้ว่าสาเหตุอาจเกิดจากโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือท่อปัสสาวะอักเสบ แต่ก็อาจมาพร้อมกับอาการปวดท้องรุนแรงที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายได้
นอกจากนี้ อาการปวดประเภทนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงนิ่วในไตหรือนิ่วในถุงน้ำดีก็ได้ ดังนั้นหากคุณมีอาการผิดปกติให้ไปสถานพยาบาลเพื่อรับการตรวจและตรวจร่างกายอย่างทันท่วงที
2.11. ปวดท้องและกลืนลำบาก
ปวดท้องรุนแรงพร้อมกับการรับประทานอาหารและกลืนลำบากเป็นภาวะที่น่ากังวลและมีความเสี่ยงต่อสุขภาพหลายประการ กลืนลำบากหลายวันอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติในการทำงาน ความผิดปกติของกล้ามเนื้อ เนื้องอกในหลอดอาหาร และแม้กระทั่งมะเร็งหลอดอาหาร อย่างไรก็ตาม สาเหตุของภาวะนี้อาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ เช่น ติดเชื้อ เนื้อเยื่อแผลเป็น หรือแผลในกระเพาะอาหาร ดังนั้นการตรวจวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่นๆ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องมีมาตรการรักษาที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาที่ไม่พึงประสงค์ในภายหลัง
3. ทำอย่างไรจะลดอาการปวดท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ?
ปวดท้องเป็นอาการทั่วไปที่อาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ จะมีการรักษาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรง
รักษาอาการปวดท้องที่เกิดจากโรคต่างๆ:
- หากสงสัยว่ามีอาการปวดท้องรุนแรงจากโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหารและอวัยวะสืบพันธุ์ คุณต้องไปพบแพทย์ทันทีเพื่อหาสาเหตุและหาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
- แพทย์จะสามารถสั่งยาหรือสั่งการผ่าตัดได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัย
- สำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น ปวดท้องเนื่องจากการตั้งครรภ์นอกมดลูกในสตรี และอาการปวดลูกอัณฑะบิดในผู้ชาย ต้องผ่าตัดด่วนเพื่อหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาที่เป็นอันตราย
รักษาอาการปวดท้องที่ไม่ใช่เกิดจากโรคต่างๆ:
- ปวดประจำเดือน ปวดท้องจากการทานอาหารที่ไม่ปลอดภัย สามารถรักษาได้เองที่บ้านด้วยวิธีง่ายๆ เช่น
– ถูเบาๆ รอบช่องท้องและช่องท้องส่วนล่างเพื่อบรรเทาอาการปวดและช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
– ใช้ประคบร้อนหรือผ้าอุ่นวางไว้บริเวณหน้าท้อง
– ดื่มน้ำและน้ำผักผลไม้เยอะๆ เพื่อเสริมสารอาหารและวิตามินให้กับร่างกาย
พักผ่อนให้เพียงพอ
- สามารถใช้ยาแก้ปวดที่ไม่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ เช่น paracetamol, ibuprofen หากมาตรการข้างต้นไม่ได้ผล
4. โปรไบโอติก BIOPRO ช่วยลดอาการปวดท้องรุนแรงที่เกิดจากอาการลำไส้ใหญ่อักเสบ
ลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นโรคทางเดินอาหารที่พบบ่อย ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์มากมาย ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะอาการปวดท้องรุนแรง โปรไบโอติก BIOPRO ด้วยสูตรเฉพาะ ผสมผสานแบคทีเรียที่มีประโยชน์หลายสายพันธุ์ ได้วิจัยอย่างเข้มข้น และได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการปรับปรุงอาการของโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ รวมถึงอาการปวดท้องรุนแรง:
- ปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้: BIOPRO เสริมแบคทีเรียที่มีประโยชน์ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิดร้าย ปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ จากนั้นปรับปรุงอาการอักเสบ และลดอาการของลำไส้ใหญ่อักเสบ รวมถึงอาการปวดท้องรุนแรง
- รองรับการย่อยอาหาร: แบคทีเรียที่มีประโยชน์ใน BIOPRO ช่วยเพิ่มการผลิตเอนไซม์ย่อยอาหาร ช่วยให้การย่อยอาหารมีประสิทธิภาพ ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย จึงช่วยลดอาการปวดท้องรุนแรงจากโรคลำไส้ใหญ่อักเสบได้
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: จุลินทรีย์ในลำไส้แข็งแรงมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน BIOPRO ช่วยสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับสารที่เป็นอันตราย จึงช่วยลดความเสี่ยงของอาการลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นซ้ำและปวดท้องรุนแรง
ปวดท้องรุนแรงเป็นอาการทั่วไปที่อาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ ตั้งแต่เบาๆ ไปจนถึงอันตราย แม้ว่าบางครั้งจะไม่ร้ายแรงเกินไป แต่ภาวะนี้อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายและความไม่สะดวกในการทำกิจกรรมประจำวันได้
อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาการปวดท้องรุนแรงอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่เป็นอันตรายได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการนี้โดยเฉพาะเมื่อมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้สูง อาเจียน ท้องเสีย ถ่ายเป็นเลือด … ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างทันท่วงที
5. เอกสารอ้างอิง
https://www.webmd.com/digestive-disorders/remedies-stomach-pain
https://www.healthdirect.gov.au/what-causes-abdominal-pain